การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19 เพื่อความมั่นคงขององค์กร
- อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
- 1 ก.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 ก.ค.

การบริหารจัดการผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐานบัญชีไทย ฉบับที่ 19 (TAS19) ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรต้องให้ความใส่ใจ เพราะผลประโยชน์พนักงานไม่ได้มีเพียงแค่เงินเดือน โบนัส หรือค่าตอบแทนอื่น ๆ แต่ยังรวมถึงภาระผูกพันในระยะยาวที่อาจส่งผลกระทบทางการเงินได้หากไม่ได้วางแผนอย่างเหมาะสม
เหตุผลของการคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19
การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19 เป็นการวางแผนทางการเงินที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับองค์กร เพราะไม่ได้มีแค่การคำนวณต้นทุนในระยะสั้น เช่น เงินเดือนหรือโบนัส แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ในระยะยาวหลังเลิกจ้าง และหลังออกจากงาน หากไม่ให้ความสำคัญกับการคำนวณอย่างเหมาะสมอาจทำให้บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินในภายหลัง
เมื่อพนักงานเกษียณพร้อมกันหลายคน บริษัทอาจต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว อาจทำให้บริษัทมีกำไรลดลงหรือขาดทุนในทันที ซึ่งในกรณีที่ร้ายแรงกว่านั้น อาจทำให้บริษัทต้องปิดกิจการเพราะไม่มีเงินสำรองเพียงพอ การคำนวณตามมาตรฐาน TAS19 ช่วยให้บริษัทมีความพร้อมรับมือกับภาระผูกพันเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงทางการเงินและสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ การนำคณิตศาสตร์ประกันภัยมาใช้คำนวณช่วยเพิ่มความแม่นยำในการประมาณการต้นทุนและวางแผนล่วงหน้า ทำให้องค์กรสามารถวางงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการเงินทุน และเตรียมพร้อมรับมือกับภาระผูกพันในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
ประเภทของผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐาน TAS19
มาตรฐาน TAS19 ได้กำหนดผลประโยชน์พนักงานออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้:
ผลประโยชน์ระยะสั้น: เป็นผลประโยชน์ที่ต้องจ่ายในระยะสั้นไม่เกิน 12 เดือน เช่น เงินเดือน โบนัส วันลาป่วย วันหยุดพักร้อน เป็นต้น
ผลประโยชน์หลังเลิกจ้าง: หมายถึง เงินชดเชยตามกฎหมายเมื่อพนักงานออกจากงานหรือถูกเลิกจ้าง
ผลประโยชน์หลังออกจากงาน: ผลประโยชน์จะจ่ายให้เมื่อพนักงานเกษียณ หรือลาออก และเสียชีวิต (ถ้ามี) โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ โครงการสมทบเงิน (Defined Contribution) และโครงการผลประโยชน์ (Defined Benefit) โดยความต่างคือ โครงการสมทบเงิน จะไม่การันตีจำนวนเงิน เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในขณะที่โครงการผลประโยชน์ คือกำหนดจำนวนเงินหรือวิธีการคำนวณจำนวนเงินไว้ตายตัว เช่น เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
ผลประโยชน์ระยะยาวอื่น ๆ: เช่น เงินรางวัลพิเศษหรือโบนัสเมื่อทำงานครบ 10 ปี หรือมากกว่านั้น
ตัวช่วยสำคัญในการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน: หลักคณิตศาสตร์ประกันภัย
ในมาตรฐาน TAS19 แม้จะไม่ได้บังคับ แต่ก็สนับสนุนให้กิจการใช้หลักคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuarial Science) ในการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน ซึ่งหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์และคาดการณ์ความเสี่ยง โดยนำข้อมูลจากคณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการเงินมาประยุกต์ใช้ในการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน ตัวอย่างเช่น การคาดการณ์อัตราการลาออก การคาดการณ์เงินเดือนในอนาคต หรือการคำนวณอายุเฉลี่ยของพนักงานเมื่อเกษียณ
การนำหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยมาช่วยคำนวณช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนการเงินล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และเพิ่มความมั่นคงในการบริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หากบริษัทของคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยอย่างไร สามารถติดต่อบริษัท ABS ของอาจารย์ทอมมี่ พิเชฐได้ โดย ABS คือผู้ให้บริการชั้นนำด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน ด้วยทีมคณิตศาสตร์ประกันภัยที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และไทย ทั้งยังมีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรกว่า 2,000 แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
(สามารถดูเสียงตอบรับและความประทับใจของผู้ที่เคยใช้บริการได้ที่ www.actuarialbiz.com/th/testimonial)
สรุป
การคำนวณผลประโยชน์พนักงานตามมาตรฐานบัญชีไทย ฉบับที่ 19 (TAS19) ไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่คือการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับองค์กร การนำหลักคณิตศาสตร์ประกันภัยมาใช้คำนวณช่วยให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำและลดความเสี่ยงในระยะยาว
อ้างอิงจาก: https://actuarialbiz.com/th/knowledgedetails/258
เขียนและเรียบเรียงโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และอาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19
ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น
Comments